iPhone 5 ดีอย่างไร ทำไมต้องซื้อ ?

By on April 6, 2013
  • Tweet
  • Pin It
Tweet
Pin It

สวัสดีค่ะแฟนๆ Charme’ (ชาร์เม่) หลายๆคนคงมีคำถามว่า iphone 5 ดีอย่างไร? ทำไมต้องซื้อ? แล้วมันต่างกับโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นอย่างไร? วันนี้แอดมินมีคำตอบมาให้ค่ะ ตามไปดูคำตอบพร้อมๆกับแอดมินกันเลยดีกว่าค่ะ

iphone 5

iphone 5

iphone 5

ประสิทธิภาพหลักๆของ iphone 5 ที่ดีกว่ารุ่นอื่่นๆคงจะหนีไม่พ้นเรื่อง software และ hardware ของค่าย Apple ไม่ว่าจะเป็นระบบปฎิบัติการ iOS 6 ที่ทำให้ CPU และ Graphic ของเครื่องทำงานได้รวดเร็วขึ้น และการดีไซน์ที่เรียบหรู

ตามไปดูกันดีกว่าว่า iphone 5 เครื่องนี้มีดีอะไรกันบ้าง

1. Map (แผนที่) : หลังจาก Apple ยกเลิกการใช้งานแผนที่ของ Google อย่างเป็นทางการใน  iOS 6 นี้แล้วหันมาพัฒนาร่วมกับ TomTom ทำให้มีข้อได้เปรียบดังนี้

- รูปแบบสวยงามขึ้น และ มาพร้อมภาพแบบ 3D

- มีระบบการนำทางแบบคำนวณจากเส้นทางจริง

- มีรายงานสภาพจราจร (สำหรับประเทศไทยต้องรอก่อนนะค่ะ)

- สามารถสั่งให้ siri หาเส้นทางได้

iphone5

iphone 5

iphone 5

2. Notification Center : ซึ่งเป็นฟีเจอร์การเตือนเมื่อมีผู้ติดต่อเข้ามา ได้รวมเอา  Facebook และ Twitter เข้าไว้ด้วยกันทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเข้าตัวแอพฯ อีกต่อไป

 

iphone 5

iphone 5

iphone 5

3. Passbooks : เป็นบริการรวมทุกการใช้จ่ายไว้ที่เดียวในแบบ All in One ซึ่งเปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์อัจฉริยะที่สามารถเก็บข้อมูลของบัตรต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ เช่น ตั๋วหนัง, บัตร Starbucks cards, บัตรคอนเสิร์ต, ตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น

iphone 5

iphone 5

iphone 5

4. Mail : มีโหมด VIPs ในระบบเขียนข้อความและการรับ-ส่งในอีเมลล์ เพื่อความสะดวกในการจัดการ เช่น กรองอีเมล์จากบุคคลสำคัญเพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อ โดยจะมีการแจ้งเตือนที่ดีกว่าอีเมล์ปกติ และยังมีกล่องจดหมายของตนเองเอาไว้คัดแยกจดหมายสำคัญไม่ให้รวมกับจดหมายทั้งหมดที่อยู่ในเมล์

iphone 5

iphone 5

iphone 5

5. Safari : บราวเซอร์เปิดเว็บไซต์ต่างๆ ประจำตัว Apple ซึ่ง มี iCloud tabs ให้ใช้  syncs Safari bookmarks ระหว่างเครื่อง Mac และอุปกรณ์ iOS ได้

iphone 5

iphone 5

iphone 5

6. Siri : ซึ่งเป็นระบบที่สามารถรับคำสั่งยาวๆ ได้ไม่ว่าจะถามอะไรเจ้า Siri ก็สามารถตอบโต้เป็นบทสนทนากับเราได้ชนิดที่คุณต้องทึ่งกันเลยทีเดียว

iphone 5

iphone 5

iphone 5

7. PhotoStream : เป็นฟีเจอร์ใหม่บน iOS6  ไว้แชร์ภาพและซิงค์วีดีโอบน iCloud กับอุปกรณ์อื่นๆ สามารถแบ่งปันรูปภาพให้กับเพื่อนได้เข้ามาคอมเม้นท์ (เหมือนกับการ Tag รูปบน Facebook)

iphone 5

iphone 5

iphone 5

 8. Phone : ฟีเจอร์การรับสายเข้าและการโทรออกบน iOS6 มีแบบให้เลือกในการรับสายมากถึง 200 กว่าแบบ

iphone 5

iphone 5

iphone 5

9. ขนาดและหน้าจอ : หน้าจอ iPhone 5 นี้มีขนาดอยู่ที่ 4 นิ้ว 326 ppi ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1136 x 640 พิกเซล ซึ่งมีความคมชัดกว่ารุ่น 4s และมีอัตราส่วน 16:9 โดยใช้หน้าจอแบบ Retina Display ซึ่งความละเอียดสูงสุดที่คนสายตาปกติจะแยกแยะเม็ดพิกเซลไม่ออก

iphone 5

iphone 5

iphone 5

10. ดีไซน์ตัวเครื่อง : ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมแบบยูนิบอดี้และกระจก สูง 123.8 มิลลิเมตร, กว้าง 58.6 มิลลิเมตร, หนา 7.6 มิลลิเมตรและน้ำหนัก 112 กรัม รวมๆ แล้วตัวเครื่องจะบางกว่า iPhone 4S ถึง 18% และมีน้ำหนักเบากว่าเดิมถึง 20%

iphone 5

iphone 5

iphone 5

11. การใช้งานอินเตอร์เน็ต : iPhone 5 รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบ 3G HSDPA+ 21Mbps (ใช้ความเร็ว 3G ได้สูงสุดอยู่ที่ 21Mbp) และ 4G LTE (บ้านเรายังไม่มี) โดยมีความเร็วสูงสุด 100Mbps ในการรองรับของ iPhone 5 เครื่องนี้

iphone 5

iphone 5

iphone 5

12. กล้องถ่ายรูปด้านหน้า : สามารถเล่น FaceTime ชัดๆ ด้วยระบบภาพ HD ความละเอียดจะอยู่ที่ 720p และถ่ายวิดีโอระดับ 720p โดยมีไมโครโฟน 3 ตัวอยู่ด้านบน,ล่างและด้านหลังเพื่อรองรับการโทรศัพท์เสียง HD และมีฟังก์ชันกันเสียงรบกวนอีกด้วย

iphone 5

iphone 5

iphone 5

13. กล้องถ่ายรูปด้านหลัง : ใช้กล้อง iSight ที่มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4 BSI ซึ่งทาง Apple กล่าวว่าสามารถถ่ายภาพนิ่งออกมาได้อย่างคมชัด แถมยังกินไฟน้อย ถ่ายภาพได้เร็วกว่าเดิม กล้องถ่ายวีดีโอสามารถถ่ายภาพได้ในระดับ Full HD 1080 p โดยมีความละเอียดอยู่ 3264×2448 พิกเซล ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียวหากเทียบกับตัวเก่าอย่าง 4s และยังถ่ายภาพพาโนรามาได้ความละเอียดสูงสุดถึง 28 ล้านพิกเซลและมีระบบกันสั่นรองรับทำให้หมดปัญหาเรื่องภาพสั่นเบลอแน่นอน

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

14. หูฟังรุ่นใหม่ (EarPods) : สำหรับหูฟัง EarPods นั้นมีลำโพง 3 ช่อง เพื่อให้การกระจายของเสียงเท่ากันทั่วทิศทาง ไม่ว่าคุณจะมีหูลักษณะไหนก็ตาม เหมือนเป็นการปิดช่องว่างของรูหู และให้ได้เสียงที่นุ่มนวลมากที่สุดและสุดท้ายยังป้องกันเหงื่อและน้ำได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว

iphone 5

iphone 5

iphone 5

15. การเชื่อมต่อด้วยสายซิงค์ (Connector) : ตัวสายเป็นแบบใหม่มีขนาดเล็กลงมีชื่อเรียกว่า Lightning และมาพร้อมหัวแปลงเพื่อให้สามารถใช้งานกับ Connector แบบเก่าได้

iphone 5

iphone 5

iphone 5

16. Nano-SIM : ซิมมาตรฐานขนาดใหม่ที่เล็กกว่าไมโครซิมโดยมีขนาดเพียงประมาณ 1 ตารางเซ็นติเมตร ทำให้ขนาดต่างๆ ของตัวเครื่องเล็กลงไปได้อีก

iphone 5

iphone 5

iphone 5

17. แบตเตอรี่ : แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นสามารถเปิดเครื่องสแตนบายได้ถึง 225 ชั่วโมง, คุยผ่าน 3G ได้ถึง 8 ชั่วโมง, ดูวิดีโอได้นานถึง 10 ชั่วโมงและฟังเพลงได้นานถึง 40 ชั่วโมง

iphone 5

iphone 5

iphone 5

18. ตารางการเปรียบเทียบสเปคโทรศัพท์สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของค่ายต่างๆ

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

iphone 5

ขอบคุณรูปภาพจาก : phoneArena.com

About Writer

You must be logged in to post a comment Login